top of page
Search

เชื้อแบคทีเรียกับผลกระทบต่อกระเพาะ

  • Writer: LEO Chemical
    LEO Chemical
  • Apr 7, 2021
  • 1 min read

Updated: Jul 8, 2021

รู้จักเชื้อเอชไพโลไร H. Pylori (Helicobacter Pylori)

แบคทีเรียทั่วไปที่พบในเขตร้อน อาศัยอยู่ในระบบทางเดินกระเพาะอาหารได้โดยผ่านการรับประทานอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงด้วยความร้อน ซึ่งส่วนใหญ่มีการปนเปื้อนของแบคทีเรีย เช่น น้ำไม่สะอาด มือไม่ล้าง รวมถึงอุปกรณ์การปรุงที่สกปรกปนเปื้อน ปกติในกระเพาะอาหารมีการสร้างกรดเพื่อทำลายอาหารที่ปนเปื้อน แบคทีเรียส่วนใหญ่เมื่อลงสู่กระเพาะถ้าเชื้อไม่รุนแรงมาก จะถูกกรดทำลายไปส่วนหนึ่ง รวมถึงแบคทีเรียบางชนิดไม่สามารถอยู่ในกระเพาะอาหารได้ แต่เชื้อเอชไพโลไร มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถเกาะเกี่ยวตัวเองไว้กับเยื่อบุผิวกระเพาะ รวมถึงสามารถผลิตด่างขึ้นป้องกันตัวเอง แทรกอยู่ระหว่างช่องเซลล์ของผิวเยื่อบุกระเพาะอาหาร ซึ่งสามารถอาศัยอยู่ในกระเพาะผู้ติดเชื้อนานนับ 10 ปี โดยอาจไม่มีอาการใดๆ



ติดเชื้อในกระเพาะอาหาร อาจมีอาการกระเพาะอักเสบ

ทั้งนี้หากมีการติดแบบเฉียบพลัน หรือ ติดเชื้อในกระเพาะอาหาร ในปริมาณเชื้อมากๆ จะมีอาการเหมือนกระเพาะอาหารอักเสบ โดยมีไข้ ปวดท้องคลื่นไส้ อาเจียน เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วหายไป เนื่องจากกลไกร่างกายพยายามทำให้การอักเสบเบาลง แต่เชื้อยังไม่ตายและซ่อนอยู่ ในขณะที่ผู้รับเชื้อในปริมาณน้อยอาจไม่มีอาการใดๆ เลย และเชื้อก็จะฝังตัวอยู่ในกระเพาะอาหารไปเรื่อยๆ โดยสร้างความเป็นด่างในกระเพาะเพิ่มขึ้นจนผู้ป่วยเกิดการอักเสบเรื้อรังที่ผิวกระเพาะอาหาร โดยมีอาการหรือไม่มีก็ได้

เมื่อกระเพาะอักเสบเรื้อรังนาน ผิวกระเพาะอาหารเริ่มฝ่อ ความแข็งแรงของผิวเยื่อบุลดลง ส่งผลให้กระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรังหรือเกิดแผลในกระเพาะอาหารหรือในลำไส้เล็กได้ ในที่สุดอาจทำให้คนไข้มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร ดังนั้นหากผู้ป่วยกินยาลดกรดแล้วกลับมาเป็นซ้ำใหม่ 70-80% ในระยะ 2 ปี ควรเข้ารับการตรวจหาเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไร ซึ่งหากตรวจพบและรักษาหาย โรคแผลในกระเพาะที่กลับมาเป็นซ้ำจะลดเหลือเพียง 4- 7 % เท่านั้น



อาการเมื่อ ติดเชื้อในกระเพาะอาหาร

ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ แต่พบแพทย์ด้วยโรคกระเพาะเรื้อรัง ปวดท้อง แสบท้อง แน่นเฟ้อ รับประทานอาหารแล้วจุก อิ่มแน่น ซึ่งเป็นอาการของโรคกระเพาะอักเสบเรื้อรัง หรือโรคกระเพาะอาหาร กินยารักษาแล้วหาย จากนั้นต้องกลับมากินยาใหม่ หากเป็นๆ หายๆ วนเวียนนาน 2-3 สัปดาห์ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อเอชไพโลไร



ปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อเอชไพโลไร H. Pylori

คนทุกเพศทุกวัยมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไพโลไรทั้งสิ้น ทั้งที่มีอาการและไม่มีอาการ โดยมีปัจจัยเสี่ยง ดังนี้

  • รับประทานอาหารดิบ กึ่งสุกกึ่งดิบ หรือของหมักดอง รวมถึงผักสดเป็นประจำ

  • ดื่มน้ำไม่สะอาด

  • อุปกรณ์ประกอบอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ

  • อาศัยในสิ่งแวดล้อมหรือรับประทานอาหารร่วมกับผู้ติดเชื้อ เนื่องจากเชื้อเอชไพโลไร สามารถติดต่อทางน้ำลายและสารคัดหลั่ง


อ้างอิง

https://bit.ly/3sVZyFq




BANTACID

ยากล้วยผง แบนทาซิด

รักษาแผล

ในกระเพราะอาหาร



สามารถซื้อสินค้าได้ที่ช่องทางออนไลน์





 
 
 

Comments


© 2021 All rights reserved @ บริษัท แสงสว่างตราค้างคาว จำกัด

ยาแผนโบราณ ทะเบียนเลขที่ G498/62

bottom of page